สระว่ายน้ำ
ประวัติ • ระบบบำบัด • ระบบหมุนเวียนของน้ำ • การทำงานของเรา • โครงการที่ได้รับความไว้วางใจจากเรา

ประวัติ
Poolvarin Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเป็นบริษัทชั้นนำในด้านการก่อสร้าง ออกแบบและติดตั้งสระว่ายน้ำ สระน้ำ สปา และสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเราให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ได้มาตรฐานและประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ได้รับการยอมรับและยอมรับอย่างกว้างขวางในโครงการต่างๆ เช่น คอนโดมิเนียม ชุมชนที่พักอาศัย และบ้านเดี่ยว
เราพร้อมที่จะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณภาพสูงสำหรับโครงการของคุณ โดยรักษามาตรฐาน Poolvarin และใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญระดับมืออาชีพของทีมงานของเรา

ระบบบำบัด
ระบบคลอรีน
💧 ระบบคลอรีนคืออะไร?
ระบบคลอรีน (Chlorine System) คือการบำบัดน้ำสระว่ายน้ำโดยใช้ สารคลอรีน (Chlorine) เป็นตัวฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ตะไคร่ และไวรัสต่าง ๆ ในน้ำ ทำให้น้ำใสสะอาดและปลอดภัยต่อการใช้งาน
- ฆ่าเชื้อโรคได้มีประสิทธิภาพ
คลอรีนสามารถฆ่าแบคทีเรีย ไวรัส ตะไคร่ และเชื้อราได้ดี เห็นผลเร็ว และควบคุมโรคที่มากับน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ
ไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรหรือระบบอัตโนมัติราคาแพง ใช้คลอรีนเติมด้วยมือก็เพียงพอ - ควบคุมคุณภาพน้ำง่าย
การวัดค่าคลอรีนและค่า pH สามารถทำได้เองด้วยชุดทดสอบง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน - หาซื้อสารเคมีและอุปกรณ์ได้ง่าย
คลอรีนมีจำหน่ายทั่วไปในรูปแบบผง เม็ด และน้ำ สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม - เห็นผลรวดเร็ว
เมื่อเติมคลอรีนลงในสระ จะเห็นว่าน้ำขุ่นหรือเขียวกลับมาใสภายใน 1–2 วัน หากทำถูกวิธี - ใช้งานได้กับทุกขนาดสระ
ทั้งสระบ้าน สระโรงแรม หรือสระโรงเรียนก็สามารถใช้ระบบคลอรีนได้ทั้งหมด - สามารถใช้ร่วมกับระบบอื่นได้
เช่น UV, โอโซน หรือระบบเกลือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้คลอรีนในระยะยาว - เป็นระบบมาตรฐานสากล
ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานด้านสุขภาพทั่วโลก เช่น WHO, CDC ฯลฯ - ช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกในน้ำ
เช่น คราบเหงื่อ น้ำมันจากผิวหนัง หรือสารอินทรีย์จากผู้ใช้งาน - ดูแลรักษาเองได้ง่าย
เหมาะสำหรับเจ้าของบ้านทั่วไป ไม่ต้องมีช่างประจำก็สามารถดูแลสระได้
1. ตรวจวัดค่าคลอรีนและ pH ทุกสัปดาห์
- ค่า Free Chlorine ควรอยู่ที่ 0–3.0 ppm
- ค่า pH ควรอยู่ที่ 2–7.6
- ใช้ Test Kit หรือ Test Strip ตรวจวัด
2. เติมคลอรีนอย่างสม่ำเสมอ
- ชนิดคลอรีนที่ใช้ได้:
- คลอรีนผง (Calcium Hypochlorite)
- คลอรีนน้ำ (Sodium Hypochlorite)
- คลอรีนเม็ด (Trichlor)
- ปริมาณขึ้นอยู่กับขนาดของสระและจำนวนผู้ใช้งาน
3. Shock Chlorination ทุก 1–2 สัปดาห์
- เติมคลอรีนในปริมาณสูง (5–10 ppm) เพื่อฆ่าเชื้อสะสม ตะไคร่ และของเสียอินทรีย์
- ควรทำตอนกลางคืน และไม่ให้มีคนลงเล่นหลังการ shock อย่างน้อย 8–12 ชั่วโมง
4. ดูแลระบบกรองน้ำ
- ทำความสะอาดไส้กรองหรือเปลี่ยนทรายกรองตามระยะ
- คลอรีนจะทำงานได้ดีเมื่อน้ำใสและไม่มีของเสียปะปนมาก
- คำนวณปริมาณคลอรีนที่ต้องใช้
เช่น สระขนาด 40,000 ลิตร ต้องใช้คลอรีนผงประมาณ 100–150 กรัม/วัน - เติมคลอรีนลงในน้ำโดยตรง
หรือใส่ในเครื่องจ่ายอัตโนมัติ (chlorinator) - ควบคุมค่า pH ให้อยู่ในช่วงเหมาะสม
- ใช้ Soda Ash เพิ่มค่า pH
- ใช้กรด HCl หรือน้ำยาลด pH หากเกิน
- ตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง
🌟 ประโยชน์ของระบบคลอรีน
ประโยชน์ | รายละเอียด |
---|---|
🛡️ ป้องกันโรคจากน้ำ | ฆ่าเชื้อไวรัส/แบคทีเรีย ลดความเสี่ยงโรคตาแดง ผิวหนังอักเสบ |
💧 ทำให้น้ำใสสะอาด | ลดตะไคร่ กลิ่นเหม็น และความขุ่น |
🧼 ควบคุมกลิ่นและคราบ | ช่วยสลายสิ่งสกปรก เช่น คราบเหงื่อ น้ำมัน |
💰 ต้นทุนต่ำและคุ้มค่า | ไม่ต้องใช้เครื่องแพง ดูแลด้วยตนเองได้ |
🔁 ใช้ร่วมกับระบบอื่นได้ | เช่น UV, โอโซน, หรือเกลือ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ |
- คลอรีนมากเกินไปอาจทำให้ผิวแห้ง ตาแสบ และกลิ่นแรง
- ต้องจัดเก็บคลอรีนในที่แห้ง เย็น และพ้นมือเด็ก
- ห้ามผสมกับกรดหรือสารเคมีอื่น เพราะอาจเกิดแก๊สพิษ
ระบบเกลือ
🧂 ระบบเกลือคืออะไร?
ระบบเกลือ คือระบบบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำที่ ไม่ต้องเติมคลอรีนโดยตรง แต่ใช้ เกลือ (Sodium Chloride – NaCl) เติมลงในสระ จากนั้นเครื่อง “Salt Chlorinator” จะเปลี่ยนเกลือให้กลายเป็น คลอรีน ด้วยกระบวนการ Electrolysis (ไฟฟ้าแยกโมเลกุล) เพื่อฆ่าเชื้อโรค
- น้ำอ่อนและไม่ระคายเคืองผิวหนังหรือดวงตา
- เหมาะสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ และคนผิวแพ้ง่าย
- ไม่ต้องเติมคลอรีนด้วยมือบ่อย ๆ
- ระบบจะผลิตคลอรีนเองจากเกลือ ทำให้ดูแลง่ายขึ้นมาก
- กลิ่นคลอรีนเบามากหรือแทบไม่มี
- ไม่เหม็นเหมือนระบบคลอรีนแบบดั้งเดิม
- ประหยัดระยะยาว
- หลังติดตั้ง แม้เครื่องมีราคาสูง แต่ค่าวัสดุเคมี (เกลือ) ถูกกว่าเติมคลอรีนตลอดปี
- รักษาน้ำให้ใส สะอาด สม่ำเสมอ
- ระบบทำงานอัตโนมัติ ไม่ต้องคอยเติมคลอรีนเองทุกวัน
1.เติมเกลือตามสัดส่วน
- ความเข้มข้นเกลือในสระควรอยู่ที่ประมาณ 3,000–4,000 ppm
- ใช้เกลือบริสุทธิ์สำหรับสระว่ายน้ำเท่านั้น (Food Grade / Pool Grade)
- เติมเกลือใหม่ปีละ 1–2 ครั้ง หรือเมื่อน้ำมีการเปลี่ยนถ่ายเยอะ
2. ทำความสะอาดเซลล์ (Cell Cleaning)
- เซลล์ผลิตคลอรีน (Electrolytic Cell) อาจเกิดคราบหินปูน (Calcium Buildup)
- ควรล้างเซลล์ด้วยน้ำส้มสายชูเจือจางหรือกรดอ่อน (เช่น 1:4 Muriatic Acid)
- ทุก ๆ 2–3 เดือน หรือเมื่อเครื่องเตือน
3. ตรวจค่า pH และคลอรีน
- ค่า pH ควรอยู่ที่ 2–7.6
- ตรวจค่า Free Chlorine ให้อยู่ในช่วง 0–3.0 ppm
- บางระบบมีเซ็นเซอร์วัดอัตโนมัติ
4. ตรวจระดับเกลือ (Salt Level)
- ระบบจะเตือนถ้าระดับเกลือต่ำกว่าค่าที่เหมาะสม
- เติมเกลือเมื่อจำเป็น
- เติมเกลือครั้งแรก
- คำนวณจากปริมาณน้ำในสระ เช่น สระขนาด 40,000 ลิตร ใช้เกลือ ~120 กก.
- เปิดเครื่อง Salt Chlorinator
- ตั้งระดับการผลิตคลอรีน (% Output) ตามการใช้งาน เช่น 30–70%
- ใช้งานร่วมกับระบบกรองปกติ (Sand Filter หรือ Cartridge Filter)
- ตรวจวัดค่าคลอรีนและ pH ทุกสัปดาห์
🌟 ประโยชน์ของระบบเกลือ
ประโยชน์ | รายละเอียด |
---|---|
🛡️ สุขภาพปลอดภัยกว่า | ไม่มีคลอรีนตกค้าง กลิ่นแรง ผิวลอก หรือตาแสบ |
💧 น้ำใสสะอาดเสมอ | ระบบทำงานอัตโนมัติ ไม่ขาดคลอรีน |
💰 ประหยัดระยะยาว | เกลือราคาถูกกว่า ใช้ซ้ำได้ยาวนาน |
⏱️ ดูแลง่าย | ไม่ต้องเติมคลอรีนบ่อย ไม่ต้องผสมสารเคมีหลายชนิด |
🧘♀️ ประสบการณ์ว่ายน้ำดีขึ้น | น้ำอ่อนเหมือนน้ำแร่ ไม่ระคายเคืองผิว |
- เครื่องผลิตคลอรีนมีต้นทุนเริ่มต้นสูง (ประมาณ 20,000–70,000 บาทขึ้นไป)
- ควรเลือกแบรนด์ที่มีอะไหล่ และบริการหลังการขายในไทย
- หากใช้สระหนักมาก อาจต้องเติมคลอรีนเสริมเป็นครั้งคราว
ระบบโอโซน
💨 ระบบโอโซนคืออะไร?
ระบบโอโซน (Ozone System) เป็นระบบบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำที่ใช้ ก๊าซโอโซน (O₃) ในการฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส และจุลินทรีย์ โดยไม่ต้องใช้คลอรีนหรือใช้น้อยมาก
โอโซนคือ สารออกซิไดซ์แรงสูง ที่สามารถฆ่าเชื้อได้เร็วและมีประสิทธิภาพดีกว่าคลอรีนหลายเท่า และเมื่อเสร็จสิ้นการทำงาน โอโซนจะสลายตัวกลายเป็น ออกซิเจน (O₂) จึงไม่ตกค้างในน้ำ
- ไม่ระคายเคืองผิวหนังหรือดวงตา
- ไม่มีคลอรีนตกค้าง กลิ่นไม่แรง เหมาะสำหรับผู้แพ้ง่าย
- น้ำใสเป็นประกาย (Crystal Clear)
- โอโซนช่วยจับโมเลกุลสิ่งสกปรกให้ระบบกรองกำจัดได้ง่ายขึ้น
- ฆ่าเชื้อได้แรงและเร็วกว่า
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และพวก Giardia, Cryptosporidium ได้ดีกว่าคลอรีน
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ไม่มีสารเคมีตกค้าง ไม่สร้างไตรฮาโลมีเทน (สารก่อมะเร็งจากคลอรีน)
- ลดการใช้สารเคมีอื่น
- อาจลดหรือเลิกใช้คลอรีนได้เลย หากออกแบบระบบดี
- ตรวจเช็คการทำงานของเครื่องโอโซนเป็นประจำ
- มีไฟแสดงสถานะ / ระบบตรวจแรงดัน / ไฟแจ้งเตือน
- เปลี่ยนอุปกรณ์ที่สึกหรอ
- เช่น หลอด UV (ในระบบผลิตโอโซนแบบ UV) หรือแผ่นเซรามิก (ในระบบ Corona Discharge)
- ทำความสะอาด injector หรือ venturi
- ป้องกันตะกอนอุดตัน ทำให้การฉีดโอโซนมีประสิทธิภาพ
- ตรวจคุณภาพน้ำเป็นประจำ
- แม้จะใช้โอโซน ก็ยังต้องตรวจ pH, ค่า ORP (Oxidation Reduction Potential) และคุณภาพน้ำอื่น ๆ
- ติดตั้งเครื่องโอโซนในท่อหมุนเวียนหลังระบบกรอง
- ติดตั้งหลัง Sand Filter หรือ Cartridge Filter และก่อนน้ำกลับสระ
- ต่อเข้าระบบไฟฟ้า (มีทั้ง 220V และ 380V ขึ้นกับรุ่น)
- แนะนำให้เดินระบบไฟแยกเฉพาะ
- ตั้งเวลาเปิด/ปิดเครื่องอัตโนมัติ
- ใช้ร่วมกับ Timer หรือต่อพ่วงกับระบบหมุนเวียนน้ำ
- ใช้งานร่วมกับระบบคลอรีนปริมาณต่ำ หรือ UV
- เพื่อความปลอดภัยยามโอโซนไม่พอ (ช่วงคนลงเล่นเยอะ)
🌟 ประโยชน์ของระบบโอโซน
ประโยชน์ | รายละเอียด |
---|---|
🛡️ ปลอดภัยต่อสุขภาพ | ไม่มีสารเคมีตกค้าง ตาไม่แสบ ผิวไม่แห้ง |
💧 น้ำใสเป็นพิเศษ | ฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และสารอินทรีย์ |
🍃 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | ไม่ทิ้งคลอรีนหรือสารเคมีในสิ่งแวดล้อม |
⚙️ ลดภาระการดูแลระบบน้ำ | ใช้สารเคมีน้อยลง ไม่ต้อง shock chlorine บ่อย |
💸 คุ้มค่าในระยะยาว | ประหยัดค่าสารเคมีและน้ำ (ลดการถ่ายน้ำ)** |
- โอโซน ไม่สามารถตกค้างในน้ำได้ ต้องใช้ระบบร่วมกับคลอรีนเล็กน้อยหรือระบบอื่น
- เครื่องผลิตโอโซนมีราคาสูง และต้องบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- หากออกแบบไม่ถูกต้อง อาจปล่อยโอโซนออกสู่อากาศ (เป็นอันตรายต่อระบบหายใจ)
- ต้องติดตั้งโดยผู้ชำนาญ และเลือกอุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบหมุนเวียนของน้ำ
แบบสกิมเมอร์
ระบบหมุนเวียนสระว่ายน้ำด้วยสกิมเมอร์ (Skimmer System) คือหนึ่งในระบบการหมุนเวียนน้ำที่ใช้ สกิมเมอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ติดขอบสระ ช่วยดูดผิวน้ำเข้าสู่ระบบกรองน้ำ โดยไม่ต้องมีรางน้ำล้นรอบสระเหมือนระบบ Overflow
⚙️ หลักการทำงานของระบบสกิมเมอร์
- ดูดผิวน้ำผ่านสกิมเมอร์
– สกิมเมอร์จะติดอยู่ตามขอบสระ (มักอยู่ด้านบนของผนังสระ)
– น้ำผิวบนที่มีเศษใบไม้ ฝุ่น แมลง ฯลฯ จะถูกดูดผ่านช่องเปิดของสกิมเมอร์เข้าไปใน ตะกร้ากรองหยาบ (Skimmer Basket) - น้ำไหลผ่านระบบกรอง
– หลังจากผ่านตะกร้าสกิมเมอร์ น้ำจะถูกดูดเข้าปั๊ม และส่งไปยัง เครื่องกรอง (Sand filter, Cartridge filter, ฯลฯ) เพื่อกรองสิ่งสกปรกละเอียด
น้ำสะอาดถูกส่งกลับเข้าสระ
– ผ่านท่อจ่ายน้ำกลับ (Inlet) ที่อยู่บริเวณผนังหรือพื้นสระ
- Skimmer: จุดดูดน้ำผิวหน้า
- Skimmer Basket: ดักจับใบไม้/เศษผง
- ปั๊มน้ำ (Pump): ดูดน้ำเข้าและส่งน้ำกลับ
- เครื่องกรอง (Filter): กรองสิ่งสกปรกในน้ำ
- Inlet Return Jet: ปล่อยน้ำที่กรองแล้วกลับสระ
- ต้นทุนการก่อสร้างต่ำ กว่าระบบ Overflow
- ดูแลรักษาง่าย ไม่ซับซ้อน
- เหมาะกับสระส่วนตัวหรือสระขนาดเล็ก-กลาง
- ไม่ต้องมีรางน้ำรอบสระ (สระดูเรียบง่าย)
แบบโอเวอร์โฟ
ระบบหมุนเวียนสระว่ายน้ำแบบโอเวอร์โฟลว์ (Overflow System) เป็นระบบที่ใช้น้ำล้นจากขอบสระเข้าสู่รางรอบสระ แล้วส่งไปกรองและหมุนเวียนกลับมาใหม่ ทำให้น้ำในสระดูเรียบเนียนเท่าขอบสระ (คล้ายกับ “อินฟินิตี้พูล”)
⚙️ หลักการทำงานของระบบโอเวอร์โฟลว์
- น้ำล้นจากผิวน้ำเข้าสู่รางรอบสระ
– น้ำจะล้นขอบสระแบบต่อเนื่อง เข้าสู่ รางระบายน้ำ (Gutter) ที่อยู่รอบๆ ขอบสระ - น้ำไหลเข้าสู่บ่อพัก (Balance Tank)
– จากรางรอบสระ น้ำจะถูกเก็บไว้ใน บ่อพักน้ำ
– บ่อพักนี้จะรักษาปริมาณน้ำให้สมดุล และส่งต่อไปยังปั๊มน้ำ - น้ำถูกดูดผ่านระบบกรองและบำบัด
– น้ำจากบ่อพักจะเข้าสู่ ปั๊มน้ำ → เครื่องกรอง (Sand/Cartridge/DE filter) → ระบบฆ่าเชื้อ (คลอรีน/เกลือ/โอโซน) - น้ำสะอาดถูกส่งกลับเข้าสระ
– ผ่านหัวจ่ายน้ำ (Inlet) ที่พื้นหรือผนังสระด้านล่าง เพื่อให้น้ำดันขึ้นสู่ผิวหน้า แล้วล้นออกไปอีกครั้ง
– เกิด วงจรหมุนเวียนน้ำแบบต่อเนื่อง
- รางน้ำล้น (Overflow Gutter)
- ตะแกรงรางน้ำ (Gutter Grating)
- บ่อพักน้ำ (Balance Tank)
- ปั๊มน้ำ, เครื่องกรอง, ระบบฆ่าเชื้อ
- หัวจ่ายน้ำ (Inlets) บริเวณพื้นหรือผนังสระ
- น้ำไหลเวียน ทั่วถึงทั้งผิวน้ำและด้านล่างของสระ
- ผิวน้ำเรียบ สวยงามระดับเดียวกับขอบสระ ดูหรูหรา
- ทำความสะอาดผิวน้ำได้ดีมาก – ใบไม้ ฝุ่น และคราบไขมันจากผิวหนังถูกล้างออกทันที
- เหมาะกับ สระสาธารณะ, รีสอร์ท, โรงแรม ที่มีคนใช้เยอะ
เพิ่มเติม...การเลือกใช้ปั๊มที่มีคุณภาพ
ปั๊มหมุนเวียนน้ำในสระว่ายน้ำ (Circulation Pump) เป็นขั้นตอนสำคัญในการออกแบบระบบหมุนเวียนและบำบัดน้ำให้มีประสิทธิภาพ เพราะปั๊มทำหน้าที่ดูดน้ำจากสระ → ส่งผ่านระบบกรองและบำบัด → แล้วจ่ายกลับเข้าสระอย่างต่อเนื่อง
คุณลักษณะเด่นของปั๊ม MINDER
- การทำงานที่เงียบเป็นพิเศษ
ปั๊มน้ำ MINDERSPEED ออกแบบมาให้มีระดับเสียงต่ำเป็นพิเศษ โดยมีค่าระดับเสียงเพียง 61 เดซิเบล ที่ระยะห่าง 1 เมตร ซึ่งเงียบจนแทบไม่รู้สึกถึงการทำงานของตัวเครื่อง - ความน่าเชื่อถือในการใช้งาน
ส่วนประกอบผลิตจากวัสดุพลาสติกวิศวกรรมที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวเครื่องให้ยาวนาน พร้อมทั้งติดตั้งระบบป้องกันความร้อนสูงเกินและระบบป้องกันการทำงานเกินกำลัง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานอย่างต่อเนื่อง - สมรรถนะที่มีประสิทธิภาพสูง
ด้วยเทคโนโลยีลูกปืนชนิดกระแสสลับ (AC bearing) ที่ออกแบบเป็นพิเศษ ช่วยให้การส่งกำลังมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ได้อัตราการไหลของน้ำที่เหมาะสม ช่วยให้สามารถหมุนเวียนน้ำได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง - สะดวกต่อการดูแลรักษา
มาพร้อมตะกร้ากรองขนาดใหญ่พิเศษ ช่วยลดความถี่ในการทำความสะอาดและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในระยะยาว
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ MINDER
- ปั๊มทุกรุ่นผ่านการทดสอบจากโรงงาน 100% ตามมาตรฐานสากล และมาตรฐานเฉพาะที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดย Minder เพื่อรับรองคุณภาพสูงสุด
- ทุกรุ่นมาพร้อมกับข้อต่อแบบยูเนียนขนาด 2 นิ้ว ทั้งในระบบหน่วย อิมพีเรียลและเมตริก (60 มม.) โดยสามารถปรับมุมการติดตั้งได้ และมี ข้อต่อยูเนียนแบบดั้งเดิม ให้เลือกใช้งานตามคำสั่งซื้อ
- จุดเชื่อมต่อน้ำเข้า–น้ำออก (In/Outlet) เสริมด้วยโครงสร้างเหล็กเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทานในการใช้งาน
- ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุ โพลีโพรพิลีนเสริมใยแก้ว (Glass Reinforced Polypropylene – GRPP) ซึ่งให้ความแข็งแรงสูง ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อน
- สามารถ ดูดน้ำได้ด้วยตัวเอง (Self-priming) ที่ความลึกสูงสุด 2 เมตร เหมาะสำหรับการติดตั้งเหนือระดับผิวน้ำ
- ระดับการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่ใน Enclosure Class IP55 และระดับฉนวนความร้อน Insulation Class F เพื่อการป้องกันฝุ่นและน้ำที่ดีเยี่ยม รวมถึงความปลอดภัยในการใช้งานต่อเนื่อง
- มีอุปกรณ์เสริม (Optional Components) สำหรับการใช้งานกับ น้ำทะเล ให้เลือกเพิ่มเติมตามความต้องการเฉพาะทาง
ระบบการทำงานของเรา
รายละเอียดการทำงาน